สรุปคดี บอส อยู่วิทยา จับพิรุธกระบวนการยุติธรรม

ประเด็นมาในที่ร้อนมากๆในตอนนี้ จะเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกจากให้ บอสอยู่วิทยา ก็วันนี้ในคลิปนี้เราจะมาสรุปไทม์ไลน์เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบ คดีมันจบแล้ว ใครโดนชน เกิดการฟ้องอะไรบ้างและทำไมสุดท้ายอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีจากนั้นเราจะไปดูข้อสงสัยของชาวเน็ต ที่รู้สึกว่าคดีนี้มันแปลกมันเป็นยังไง

คดีนี้เขาเริ่มต้นในปี 2555 เมื่อดาบตำรวจวิเชียรถูกรถคันนึงชนจนเสียชีวิตโดยรถคันดังกล่าวใช้ความเร็วที่ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วก็ลากร่างของดาบวิเชียรไปๆ 200 เมตร ก่อนจะขับหลบหนีไป ต่อมามีคนออกมารับสารภาพว่าตัวเองเป็นคนชนดาบวิเชียรจนเสียชีวิต แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อเพราะว่า คนที่ออกมารับ เป็นเหมือนพ่อบ้าน แต่ว่ารถที่ชนน่ะเป็น Ferrari ดูแบบว่าพ่อบ้านจะขับ Ferrari มันก็ไม่ใช่ใช่ไหม สุดท้าย สืบไปสืบมาจนแม่รู้ว่าให้ชนเนี่ยก็คือ คุณบอส วรยุทธ อยู่วิทยา ที่เราเรียกกันว่าบอสอยู่วิทยา อยู่วิทยา คือนามสกุล นามสกุลนี้สำคัญยังไง เจ้าของ Redbull เจ้าของกระทิงแดงและผลิตภัณฑ์ในเครือทั้งหมด

จากนั้นคุณบอสก็ได้เข้ามอบตัวกับทางตำรวจ แต่ว่าคุณบอส ให้การกับทางตำรวจว่า สิ่งที่เกิดขึ้นน่ะเป็นเพราะว่ามอเตอร์ไซค์ มาตัดหน้าเขา ให้การว่าดาบวิเชียรเป็นคนขับรถมาตัดหน้าเขา ตำรวจก็เลยส่งเป็นประมาทร่วมไป ซึ่งหลายคนก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อย Make Sense ที่อยู่ๆชื่อคนตายกลายเป็นคนกระทำผิดไปได้โดยตำรวจได้แจ้งข้อหากับคุณหมอ ก็คือ
1. ขับรถในขณะเมาสุราขับ
2. รถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
3. ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย
4. ขับรถชนแล้วไม่หยุดให้ความช่วยเหลือ แจ้งเจ้าหน้าที่
5. ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหลัง

จาก 1 ปีผ่านไปไม่ได้มีการฟ้องคดีใดๆ มีแค่ถอนฟ้องเป็นคดีก็คือคดีเมาแล้วขับ ตำรวจบอกว่าหลังจากการสืบสวนพบว่าคุณบอสอะไม่ได้เมาตอนขับรถ แต่ว่าขับรถชนคนตาย เกิดความเครียดก็เลยไปกินเหล้า ตอนที่เกิดเหตุเป็นช่วงเวลา 5:00 น แต่ตอนที่จะตรวจแอลกอฮอล์คือ 16:00 น แล้วตอนนั้นน่ะแอลกอฮอล์มันก็เกินค่ามาตรฐานไปเยอะ คือประมาณว่าถ้ากินตั้งแต่ตี 5 แล้วแอลกอฮอล์สูงขนาดนี้ตั้งแต่ 5:00 น มันไม่สามารถจะขับรถไปชนคนตายได้แน่นอน ตำรวจก็ฟันธงว่าเป็นการกินหลังเกิดเหตุแน่นอน ทำไมตำรวจเขาไม่คิดว่าเขาอาจจะกิน 2 รอบก็ได้ นอกจากจะถอนฟ้องข้อหาเมาแล้วขับแล้วขับรถเกินความเร็วที่กำหนดกับคดีขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหายที่มีอายุความ 1 ปีก็หมดอายุไป 1 ปีผ่านมา

หลังจากขับรถชนคนตายในวันนั้นจากที่โดนตั้งข้อหา 5 คดีไปๆมาๆเหลือแค่ 2 คดี และปี 2559 หรือ 4 ปีผ่านไปหลังเกิดเหตุ ตำรวจได้เรียกตัวคุณบอสมารับทราบข้อกล่าวหา แต่ว่าคุณบอสก็ไม่เคยมาสักรอบ ว่าป่วยมีธุระมาๆจนในที่สุดปี 60 ก็ได้มีการออกหมายจับคุณบอส โดยมีการออกหมายจับในวันที่ 27 เมษายน แต่ว่าวันที่ 25 เมษายน คุณบอสบินหนีไปต่างประเทศแล้วก็เลยจะไม่ได้ สุดท้ายคดีชนแล้วหนีที่มีอายุความ 5 ปีก็หลุดไปอีก 1 คดี ตอนนี้เหลือคดีเดียวแล้ว ก็คือคดีขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อายุความคดีนี้มันก็ไม่ได้สั้น 15 ปีเพราะฉะนั้นมันก็จะหมด 2570

กลับมาที่ปี 2563 ต้นปีที่ผ่านมามีการลงโทษนายตำรวจ 7 คนข้อหาทำคดีหย่อนยาน ก็คือเขาบอกว่าตำรวจ 7 คนเนี้ยทำงานผิดพลาดทำให้คดีคุณบอสหลักฐานแน่นหนาพอ ก็เลยกลายเป็นคดีที่ส่งฟ้องยากประมาณนั้นและ ล่าสุดข่าววันนี้ก็มีการแถลงข่าวว่าคดีสุดท้ายที่เหลืออยู่ก็หาชนคนตายไม่ผิด เพราะว่าอัยการไม่สั่งฟ้อง ตำรวจก็ไม่ได้คัดค้าน จบ จากชนคนตายจาก 5 คดีตอนนี้เหลือ 0 เดี๋ยวมาสรุปให้ฟังว่าทำไมมันถึงเหลือ 0 ได้นะ

เรามาดูสิ่งที่ผิดปกติในคดีนี้กัน สิ่งที่ชาวเน็ตมองว่าแบบนี้มันแปลกๆ มันไม่ปกติป่ะหรือประมาณนั้นนะ อยู่ๆคดีชนคนตายกลายมาเป็นคดีประมาทร่วมเฉย ตอนแรกสืบสวนในคดีชนคนตาย พอเขารู้ว่าเป็นคุณบอส สำนวนคดีมันเปลี่ยนเป็นประมาทร่วม ทั้งที่คนตายก็ตายไปแล้ว แล้วก็ไม่ได้มีหลักฐานว่ามันเป็นการประมาทร่วม อีกฝ่ายขับรถด้วยความเร็ว 170 ก่อนที่จะมาเกิดเหตุ ก็ตอนเกิดเหตุมันมีคนจับความเร็ว แต่ก่อนหน้านั้นน่ะขับมา 170 แต่ตำรวจมองว่าเป็นประมาทร่วมอันนี้ก็เป็นอะไรที่น่าพิศวงพอควร

อย่างที่ 2 ขับรถขนาดดื่มสุราตำรวจบอกว่าปริมาณแอลกอฮอล์ที่วัดได้ตอน 16:00 น มันสูงเกินไปถ้ายังเหลือขนาดนี้ตอน 5:00 น ที่ชนจะต้องเมาสลบไปแล้วไม่มีทางขับรถได้ เพราะฉะนั้นก็เลยสรุปว่าเป็นการกินเหล้าหลังชน แต่ก็อย่างที่เราถามแล้วตำรวจเขาไม่คิดหรอกินเหล้า 2 รอบก็ได้ กินตอนชนครั้งหนึ่งแล้วก็กินตอนมาตรวจครั้งหนึ่งอะไรเงี้ย

อย่างที่ 3 อัยการทำคดีนานมากปกติคดีที่เกี่ยวกับการจราจรต่อให้ไม่มีคนตาย 4 เดือน เรื่องถึงศาลแล้วแต่คดีนี้ใช้เวลา 4 ปีเรื่องถึงจะถึงศาล จนคดีหมดอายุความไปแล้ว 2 คดี จาก 5

อย่างที่ 4 ตำรวจยื่นเรื่องช้าก็ดึงคดีไม่มาตามนัด

อย่างที่ 5 อัยการส่งฟ้องช้าช้า ช้าเนี่ยส่วนหนึ่งก็เพราะว่าทนายของฝ่ายคุณบอสยื่นคัดค้านให้พิจารณาตรวจสอบคดีใหม่ตลอดเวลาคือถ้าทนายไม่ยื่นอาการก็จะส่งไปได้เลย แต่ว่าทนายยื่นคัดค้านตลอดเวลา มันก็เลยต้องกลับมาตรวจสอบใหม่ จนคดีมันหมดอายุความ

อย่างที่ 6 ไปการจับตำรวจ 7 คนว่าทำคดีหย่อนยาน เขาบอกว่าตำรวจจะหย่อนยานโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งโทษน้อยมากเหมือนแทบจะไม่มีโทษเลย ทั้งที่คุณบอสขับมาด้วยความเร็วก่อนหน้าที่จะชนกล้องจับได้ที่ 170 แต่ เขาไม่เอาเรื่องนี้เข้ามาคิดในคดี ซึ่งจริงๆมันเป็นไรที่สำคัญมากนะเหมือนมันแทบจะเป็นหลักฐานหรือว่าก่อนหน้านี้คุณขับมา 170 แต่ว่าตอนชนน่ะคุณก็อาจจะมีโอกาสขับ 170 มันเป็นแนวโน้ม แต่เขาจงใจไม่เอาเรื่องนี้เข้ามาคิด ในความเป็นจริงมันควรจะเป็นคดีทุจริตแต่ว่า ปปช. ชี้มูลเป็นแค่ปฏิบัติหน้าที่โดยหย่อนยาน ถ้ามันทุจริตโทษน่ะมากอาจมีสิทธิ์ถึงขั้นโดนออกจากราชการ แต่พอเป็นหย่อนยานมันก็เหมือนแบบก็แค่พลาดเปล่าว่าคนเราก็พลาดกัน ก็เลยแห้งไม่มีโทษอะไรเลย เราก็เหมือนว่าเขาเอาตำรวจมาเป็นแพะเพื่อให้บอกว่าต้องโหลดแต่คนเนี่ยทำคดีไม่ดีทำให้อัยการส่งฟ้องไม่ได้แล้วก็จบ

ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ควรจะจบ การที่อัยการบอกว่าสำนวนมันไม่ดีแล้วส่งฟ้องไม่ได้ สิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นคือตำรวจบอกว่าโอเคงั้นเดี๋ยวฉันกลับไปทำสำนวนมาใหม่ให้มันถูก ต้องแต่ตำรวจไม่ได้ทำแบบนั้นต้องโหลดอัยการว่าจบ ตำรวจแม่คัดค้านเพราะเห็นด้วยกับอัยการสรุปคืออัยการบอกว่าคุณบอสไม่ผิด ในคดีที่ตำรวจส่งไปเพราะตำรวจส่งไปรูปคดีไม่ค่อยถูกต้อง ตำรวจก็บอกว่าโอเคงั้นคุณหมอช่วยผิด ไม่มีใครผิดเลยแต่มีคนตายทั้งๆที่มีคนตาย แต่ไม่มีคนผิดเลย ทางอัยการทั้งตำรวจเห็นด้วยหมด ทั้งที่คุณบอสเป็นคนชนนะ เขายอมรับเองว่าเขาชนนะ แต่ว่าไม่ผิดเลย กฎหมายประเทศนี้ก็ดีนะมี 5 ที่ถูกตั้งข้อหาแต่ 4 ใน 5 หมดอายุความก่อนที่จะได้สืบสวนด้วยซ้ำ การกระทำแบบนี้มันเหมือนกับเคสของคุณแรมโบ้อิสาน สส. พรรค พลังประชารัฐ ตอนนั้นที่เขามีคดีว่าเขาล้มการประชุมอาเซียน ปี 52 ที่มีอาเซียนบินมาประชุมแล้วเขาก็ไปปิดสถานที่ไปล้มการประชุม คดีนี้ตำรวจส่งเรื่องให้อัยการใช้เวลา 8 ปี ในการทำเรื่องคือเรื่องเกิดตั้งแต่ปี 52 มีหลักฐานชัดเจนทุกอย่างมีคลิปวีดีโอไว้ว่าใครเป็นคนทำแต่ตำรวจใช้เวลา 8 ปีในการทำคดีสรุปส่งคดีให้อัยการปี 60 เลขการมีเวลาทำงานปีครึ่งแต่อัยการบอกปิดเครื่องเนี่ยไม่พอสรุปว่าคดีหมดอายุไปเมื่อปีที่แล้วปี 62 คน คุณแรมโบ้อีสานก็เป็น สส. ได้อยู่ในสภาอยากเห็นปัจจุบัน

หลายๆ คดีผู้ต้องหารอดเพราะอัยการ อ้างว่าตำรวจส่งมาช้า อัยการก็ทำงานช้า เคยมีคนพยายามที่จะปรับปรุงแก้ไขกฎหมายข้อเนี้ยว่า อัยการก็ควรจะมีกรอบระยะเวลาการทำงาน ไม่งั้นคดีมันก็จะหมดอายุไปเรื่อยๆใช่ไหม แต่สุดท้ายสิ่งนี้ก็ไม่เกิดขึ้น แล้วหาข้อมูลไม่ได้ว่าใครคัดค้าน มันไม่เกิดขึ้นบ้านดูการทำงานในพระราชกาลฝั่งไทยกันแล้วเราไปดูที่สื่อเมืองนอกกันบ้างดีกว่า

คดีนี้มีเอฟเฟคค่อนข้างมากในเมืองนอกเพราะว่าแบรนด์เรดบูลหรือบางกระทิงแดงถือว่าเป็นแบรนด์ดังของเมืองนอก เพราะว่าชงกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือว่า so hot มาถือว่าเรากระทิงใครกินก็คือเครื่องดื่มชูกำลังใช่ป่ะแต่ที่เมืองนอกกระทิงแดงคือมิกเซอร์โคตรอร่อยวัยรุ่นคนไหนไม่กินกระทิงแดงคือเอ้า CNN เคยไปทำข่าวที่อังกฤษโดยไปตามสัมภาษณ์คุณบอสจากคดีนี้ไปสัมภาษณ์ถึงหน้าบ้านเลยแต่ว่าถูกบอดี้การ์ดกันออกไปแล้วก็เคยปฏิเสธหลายสิบล้านดอลล์ในปี 60 เรื่อง เครื่องยนต์รถแข่งของ redbull เพื่อเป็นการกดดันเชิงสัญลักษณ์และสุดท้ายก็คือคดีคุณบอสเนี่ยขึ้นเป็น Top Story ของ BBC News วันนี้

ประชาชนก็ไม่ค่อยพอใจกันเท่าไหร่หรอกตอนนี้ก็เลยเกิดกระแสแบรนด์สินค้าของเรดบูลขึ้นในอินเทอร์เน็ต และนี่คือ timeline ทั้งหมดตายฝันดีทุกคนและนี่ก็เป็นความเห็นส่วนหนึ่งในทวิตเตอร์ สำหรับเราก็คิดว่าไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆสักคําให้ลึกซึ้งสำหรับเรื่องนี้นะทุกคนก็น่าจะมองเห็นอะไรหลายๆอย่าง หรือถ้าใครมีข้อเห็นต่างจากข้อโต้แย้งของชาวเน็ตก็สามารถบอกมาได้ เพราะบางทีมันอาจจะเป็นมุมมองของทางตำรวจการสื่อสารเชิงนิติวิทยาศาสตร์วิทยาศาสตร์หรือใดๆก็แล้วแต่

0 ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

view all comments
แสดงความคิดเห็นที่นี่ กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยข้อความสุภาพ และให้เกียรติผู้เขียนบทความ